A, B หรือ C กันแน่?
หากมองผิวเผิน คำถามแบบปรนัยอาจดูง่ายกว่าคำถามประเภทอื่น แต่ถ้าคุณเคยลองทำแบบฝึกหัดการฟังของ IELTS มาก่อน คุณจะรู้ว่าคำถามประเภทนี้มีความท้าทายเฉพาะตัว
คุณต้องตั้งใจฟังให้ดีว่า ผู้พูดพูดอะไร เพราะตัวเลือกบางข้ออาจมีความหมายใกล้เคียงกันมาก อีกทั้งยังอาจได้ยินคำบางคำจากตัวเลือกที่ไม่ถูกต้องในเสียงบันทึกอีกด้วย
ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปดูเคล็ดลับง่าย ๆ ที่จะช่วยให้คุณมั่นใจมากขึ้นในการรับมือกับคำถามแบบปรนัยในพาร์ทการฟังของข้อสอบ IELTS
ประเภทของคำถามแบบปรนัยในการสอบ IELTS Listening
คำถามแบบปรนัยในการสอบฟังของ IELTS จะวัดทักษะการฟังที่หลากหลาย เช่น การจับใจความหลัก หรือการฟังเพื่อหาข้อมูลเฉพาะ
คำถามเหล่านี้อาจมีตัวเลือกให้เลือกสามข้อ และบางครั้งจะมาในรูปแบบประโยคที่ยังไม่สมบูรณ์ โดยมีตัวเลือกสำหรับเติมท้ายประโยคให้ครบสามแบบ ซึ่งคุณต้องเลือกคำตอบที่ถูกต้อง (A, B หรือ C)
ในบางกรณี คุณอาจต้องเลือกคำตอบที่ถูกต้องมากกว่าหนึ่งข้อจากตัวเลือกที่ยาวขึ้น ดังนั้นอย่าลืมอ่านคำสั่งให้ละเอียดก่อนตอบ
การสนทนา หรือบทพูดในเสียงบันทึก จะเป็นไปตามลำดับของคำถามในข้อสอบเสมอ
ตัวอย่างคำถามแบบปรนัยในพาร์ทการฟังของ IELTS
เคล็ดลับสำหรับคำถามแบบปรนัยในพาร์ทการฟังของ IELTS
แล้วคุณควรฝึกฝนและเตรียมตัวอย่างไรบ้าง?
โฟกัสที่คำสำคัญ (Keywords)
ก่อนที่เสียงบันทึกจะเริ่มขึ้น ให้คุณมองไปที่คำถามแบบปรนัยและตัวเลือกคำตอบล่วงหน้า เพื่อให้ทราบว่าควรตั้งใจฟังส่วนไหนของบทสนทนา ควรขีดเส้นใต้หรือเน้นคำสำคัญในคำถามและตัวเลือกคำตอบ เช่น ชื่อ ตัวเลข สถานที่ วันที่ หรือรายละเอียดเฉพาะอื่น ๆ ลองดูตัวอย่างจากคำถามตัวอย่างต่อไปนี้ โดยมีการขีดเส้นใต้คำสำคัญไว้แล้ว
31. Participants in the Learner Persistence study were all drawn from the same
1. age group
2. geographical area
3. socio-economic level.
เคล็ดลับ: การฟังหาคำสำคัญจะช่วยให้คุณโฟกัสกับส่วนที่เกี่ยวข้องมากที่สุดในเสียงบันทึก และเลือกคำตอบที่ถูกต้องได้ง่ายขึ้น
ฟังหาคำพ้องความหมายและการพูดแบบอ้อม
ให้ระวังไว้ว่าคำที่คุณได้ยินในเสียงบันทึกอาจไม่ตรงกับคำในคำถามเป๊ะ ๆ ยกตัวอย่างในคำถามตัวอย่างข้อ 31 ข้างต้น คำตอบที่ถูกต้องคือข้อ b แต่ในเสียงบันทึก ผู้พูดใช้คำว่า ‘local region’ แทนคำว่า ‘geographical area’
เคล็ดลับ: ผู้พูดอาจใช้คำพูดอ้อม หรือคำพ้องความหมายแทนคำตอบที่ถูกต้อง
ระวังสิ่งที่ใช้เบี่ยงเบนความสนใจ (Distractors)
ในข้อสอบฟังของ IELTS จะมีสิ่งที่เรียกว่า distractors หรือข้อมูลที่ใช้เบี่ยงเบนความสนใจ เพื่อทดสอบความสามารถในการตั้งใจฟังและทำความเข้าใจภาษาอังกฤษที่ใช้ในสถานการณ์จริง ในการสนทนาในชีวิตประจำวัน เราอาจได้ยินข้อมูลที่ไม่จริง หรือไม่เกี่ยวข้องอยู่บ่อยครั้ง บางครั้งผู้พูดอาจให้ข้อมูลหรือความคิดเห็นแล้วเปลี่ยนใจ เช่นเดียวกัน ในข้อสอบฟัง คำถามแบบปรนัยจะมีตัวเลือกที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งในเสียงบันทึกอาจพูดถึงข้อมูลที่ไม่เกี่ยวข้อง และอาจทำให้คุณไขว้เขวได้
ลองดูตัวอย่างจากคำถามข้อ 9 ด้านล่าง:

ที่มา: แบบฝึกหัด IELTS Listening ฟรี – ตัวอย่างคำถามสำหรับฝึกทำ | IDP IELTS
ในการบันทึกเสียง ตัวแทนขนส่งได้อธิบายถึงประกันภัยสามประเภท และถามลูกค้าว่าเขาต้องการเลือกแบบใด
ขณะที่ลูกค้ากำลังพิจารณาตัวเลือกต่าง ๆ ประเภทแรกที่เขาเอ่ยถึงคือ ‘economy’ ซึ่งอาจทำให้ผู้ฟังบางคนเลือกข้อ A
อย่างไรก็ตาม หากคุณฟังทั้งประโยคให้จบ คุณจะได้ยินว่าเขาเคยมีประสบการณ์ไม่ดีเกี่ยวกับประกันแบบ economy ในครั้งก่อน จึงตัดสินใจเลือกข้อ C (Premium) แทน
“Oh, I’ve been stung before with economy insurance, so I’ll go for the highest.”
เคล็ดลับ: อย่าเลือกคำตอบเพียงเพราะได้ยินคำใดคำหนึ่งตรงกับในตัวเลือก ฟังบริบทของคำเหล่านั้นให้ดี เพราะสิ่งที่พูดอาจไม่ใช่การเลือกหรือข้อสรุปสุดท้าย
ใส่ใจโทนเสียงของผู้พูด
บางครั้ง โทนเสียงของผู้พูดสามารถเป็นเบาะแสช่วยให้คุณเลือกคำตอบที่ถูกต้องได้ โทนเสียงที่เป็นบวกหรือฟังดูตื่นเต้น มักแสดงถึงการเห็นด้วยหรือความพึงพอใจ ผู้พูดอาจเน้นคำบางคำหรือแนวคิดบางอย่างเพื่อสื่อว่าสิ่งนั้นสำคัญ
ในทางตรงกันข้าม เสียงสูงขึ้นในตอนท้ายประโยคอาจบ่งบอกถึงคำถามหรือความไม่แน่ใจ โทนเสียงที่ฟังดูไม่พอใจหรือเฉยชา อาจบ่งบอกถึงการไม่เห็นด้วยหรือคำตอบที่ไม่ถูกต้อง เช่น ตัวอย่างที่เราดูไปก่อนหน้านี้กับคำว่า ‘oh’ ที่ผู้พูดใช้ว่า:
“Oh I’ve been stung before with economy insurance, so I’ll go for the highest.”
เคล็ดลับ: ฟังโทนเสียงอย่างตั้งใจ โดยให้ความสำคัญกับการเน้นคำ อารมณ์ และบริบทของบทสนทนา
เปลี่ยนประโยคครึ่งหนึ่งให้เป็นคำถาม
คำถามแบบปรนัยบางข้อจะมาในรูปแบบประโยคที่ยังไม่สมบูรณ์ ซึ่งคุณต้องเลือกตัวเลือกที่ถูกต้องมาเติมให้ครบ (เช่นในคำถามข้อ 9 ด้านบน) สำหรับคำถามประเภทนี้ ลองเปลี่ยนประโยคครึ่งแรกให้เป็นคำถาม วิธีนี้จะช่วยให้คุณเลือกคำตอบได้ง่ายขึ้น
ตัวอย่างเช่น สำหรับคำถามข้อ 9 คุณอาจเปลี่ยนครึ่งประโยคแรกเป็น:
เลือกประกันประเภทใด?
ตัดตัวเลือกที่ผิดออก
เคล็ดลับ: หากคุณไม่แน่ใจในคำตอบ ให้เริ่มจากการตัดตัวเลือกที่คุณรู้ว่าไม่ถูกออกก่อน วิธีนี้จะช่วยลดจำนวนตัวเลือกลง และทำให้เลือกคำตอบที่ถูกต้องได้ง่ายขึ้น
ตอบคำถามทุกข้อ
สุดท้าย อย่าปล่อยให้คำถามค้างไว้โดยไม่ตอบ โดยเฉพาะเมื่อมีตัวเลือกให้เลือกอยู่แล้ว
ในการสอบฟัง IELTS คุณจะได้คะแนน 1 คะแนนสำหรับคำตอบที่ถูกต้องแต่ละข้อ หากคุณตอบผิดหรือเว้นว่างไว้ นั่นหมายถึงคุณพลาดโอกาสที่จะได้คะแนนจากข้อนั้นไป
เคล็ดลับ: ถ้าคุณไม่แน่ใจว่าคำตอบคืออะไร ให้ลองเดาอย่างมีเหตุผล คุณจะไม่เสียคะแนนหากตอบผิด แต่คุณอาจได้คะแนนหากตอบถูกก็ได้!
คำถามแบบปรนัยในการสอบฟัง IELTS อาจเป็นความท้าทาย แต่หากคุณฝึกฝนกลยุทธ์เหล่านี้เป็นประจำ—เช่น การฟังหาการพูดแบบอ้อมหรือการใช้คำพ้องความหมาย การจับประเด็นเบี่ยงเบน และการใส่ใจโทนเสียง—คุณก็จะสามารถทำข้อสอบได้อย่างมั่นใจ
เมื่อคุณฝึกฝนมากพอ ไม่เพียงแต่จะทำคะแนนได้ดีในการสอบเท่านั้น แต่ยังจะรู้สึกมั่นใจมากขึ้นเมื่อต้องฟังบทสนทนาและการพูดในสถานการณ์จริงอีกด้วย
หากคุณต้องการฝึกทำข้อสอบฟังแบบปรนัยเพิ่มเติม สามารถเข้าไปที่ IELTS Prepare Hub ได้เลย
คำถามที่พบบ่อย: การสอบฟัง IELTS
ค้นหาคำตอบสำหรับคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการสอบฟัง IELTS