ติวฟรีที่งาน IDP IELTS EXPO 26 เม.ย. นี้ ! สามย่านมิตรทาวน์ อ่านต่อ

Close

ที่ IELTS เราต้องการช่วยให้คุณก้าวไปสู่ระดับต่อไป และมั่นใจว่าคุณจะไม่ต้องสอบวัดทักษะภาษาอังกฤษซ้ำ นั่นคือเหตุผลที่เราจะแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการทดสอบ เกณฑ์การให้คะแนน และสิ่งที่สำคัญ สำหรับการสอบ IELTS ในพาร์ทการเขียน การพูด การอ่าน และการฟัง เราจะแจ้งให้คุณทราบว่าผู้ตรวจให้คะแนนพิจารณาอะไรบ้าง และวิธีการให้คะแนนของคุณ นอกจากนี้ เรายังจะแสดงให้คุณเห็นว่าคะแนนรวมของคุณถูกคำนวณอย่างไร

คะแนน 9 ระดับในการสอบ IELTS

การสอบ IELTS ทั้งรูปแบบ Academic และ General Training จะใช้เกณฑ์การให้คะแนนตามระดับ 9 แบนด์ สำหรับแต่ละพาร์ทของข้อสอบ (การเขียน การอ่าน การฟัง และการพูด) คุณจะได้รับคะแนนแบนด์ตั้งแต่ 1 – 9 โดยค่าเฉลี่ยของคะแนนแต่ละพาร์ทจะเป็นคะแนนรวมของคุณ ซึ่งอาจเป็นคะแนนเต็ม (เช่น 5, 6) หรือคะแนนครึ่งระดับ (เช่น 7.5, 8.5)

แล้วถ้าคุณต้องการคะแนนแบนด์ 4.5 หมายความว่าอย่างไร?

IELTS Band 4.5 คืออะไร

คะแนน IELTS 4.5 อยู่ระหว่างระดับ IELTS 4 และ IELTS 5 โดยหากคุณได้ IELTS 4 หมายความว่าคุณมีความเข้าใจภาษาอังกฤษในระดับพื้นฐานมาก และสามารถสื่อสารได้ในสถานการณ์ที่คุ้นเคย แต่ยังใช้ภาษาที่ซับซ้อนได้ยาก ส่วน IELTS 5 หมายถึงคุณสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้ในระดับจำกัด เข้าใจความหมายโดยรวมในสถานการณ์ส่วนใหญ่ได้ แต่ยังคงมีข้อผิดพลาดในการใช้ภาษาอยู่มาก

ในบทความนี้ เราจะอธิบายสิ่งที่คุณต้องทำเพื่อให้ได้คะแนน IELTS 4.5 ในแต่ละทักษะของการสอบทั้ง Listening, Reading, Writing และ Speaking

  • ในการสอบ Listening และ Reading คะแนนของคุณจะขึ้นอยู่กับจำนวนคำตอบที่ถูกต้อง

  • ส่วนในการสอบ Speaking และ Writing จะใช้ เกณฑ์การให้คะแนน (marking criteria)

  • สุดท้ายแล้ว คะแนนรวมของ IELTS จะคำนวณจากค่าเฉลี่ยของทั้งสี่ทักษะ หรือที่เรียกว่า sub-scores

หากคุณต้องการทำคะแนนให้ถึงระดับ IELTS 4.5 ควรเข้าใจหลักเกณฑ์การให้คะแนนในแต่ละทักษะ และพัฒนาทักษะการใช้ภาษาอังกฤษของคุณให้เหมาะสมกับระดับนี้

วิธีคำนวนคะแนนรวมของ IELTS

คะแนนรวม Overall Band Score คำนวณจากค่าเฉลี่ยของคะแนนทั้งสี่ทักษะ โดยปัดขึ้นหรือลงเป็นคะแนนเต็มหรือครึ่งคะแนนที่ใกล้ที่สุด ทั้งนี้ คะแนนของแต่ละทักษะมีน้ำหนักเท่ากัน

หลักการปัดคะแนนมีดังนี้:

  • หากค่าเฉลี่ยลงท้ายด้วย .25 คะแนนรวมจะถูกปัดขึ้นเป็นครึ่งคะแนนถัดไป

  • หากค่าเฉลี่ยลงท้ายด้วย .75 คะแนนรวมจะถูกปัดขึ้นเป็นคะแนนเต็มถัดไป

  • หากค่าเฉลี่ยลงท้ายด้วยค่าที่ต่ำกว่า .25 หรือ .75 คะแนนรวมจะถูกปัดลง

ตัวอย่างการคำนวณคะแนน IELTS 4.5

หากคุณได้คะแนนในแต่ละทักษะดังนี้:

  • Reading: 4.5

  • Writing: 3

  • Speaking: 6

  • Listening: 4.5

ให้รวมคะแนนทั้งหมด: 4.5 + 3 + 6 + 4.5 = 18 จากนั้น หารด้วย 4: 18 ÷ 4 = 4.5

ดังนั้น คะแนนรวมของคุณคือ 4.5 คะแนนรวม Overall Band Score คำนวณจากค่าเฉลี่ยของคะแนนทั้งสี่ทักษะ โดยปัดขึ้นหรือลงเป็นคะแนนเต็มหรือครึ่งคะแนนที่ใกล้ที่สุด ทั้งนี้ คะแนนของแต่ละทักษะมีน้ำหนักเท่ากัน

สามารถทดลองคำนวน Overall Band Score ได้จากหน้าคำนวน Band Score ของเรา

ทำอย่างไรให้ได้ IELTS Listening 4.5

ในการสอบ Listening คุณต้องตอบคำถามทั้งหมด 40 ข้อ โดยคำตอบของคุณจะถูกให้คะแนนแบบ ถูกหรือผิด ซึ่งแตกต่างจากการสอบ Speaking และ Writing ที่ใช้เกณฑ์การให้คะแนน คะแนนของคุณจะขึ้นอยู่กับจำนวนคำตอบที่ถูกต้อง โดยมีหลักเกณฑ์ดังนี้:

  • หากตอบถูก 13 ข้อจาก 40 คะแนนที่ได้จะอยู่ที่ประมาณ IELTS 4.0*

  • หากตอบถูก 16 ข้อจาก 40 คะแนนที่ได้จะอยู่ที่ประมาณ IELTS 5.0*

เคล็ดลับในการทำข้อสอบ Listening

  • ตรวจสอบการสะกดคำ คำตอบที่สะกดผิดอาจไม่ได้คะแนน

  • อ่านคำถามอย่างละเอียด เพื่อให้แน่ใจว่าตอบได้ตรงประเด็น

  • ระวังจำนวนคำที่อนุญาตให้เขียน อย่าเขียนเกินกว่าที่กำหนด

*ตัวเลขที่ระบุข้างต้นเป็นค่าเฉลี่ยของจำนวนคำตอบที่ถูกต้องที่มักใช้ในการคำนวณคะแนน IELTS Listening

ทำอย่างไรให้ได้ IELTS Reading 4.5

ในการสอบ Reading คุณต้องตอบคำถามทั้งหมด 40 ข้อ โดยข้อสอบมีหลากหลายรูปแบบ เช่น ตัวเลือกหลายข้อ (Multiple Choice), True/False/Not Given, การจับคู่ (Matching), และการเติมประโยค (Sentence Completion) เช่นเดียวกับการสอบ Listening คำตอบของคุณจะถูกให้คะแนนแบบ ถูกหรือผิด และคะแนนรวมจะขึ้นอยู่กับจำนวนคำตอบที่ถูกต้อง

เกณฑ์การให้คะแนนสำหรับ IELTS General Training Reading

  • หากตอบถูก 15 ข้อจาก 40 คะแนนที่ได้จะอยู่ที่ประมาณ IELTS 4.0*

  • หากตอบถูก 23 ข้อจาก 40 คะแนนที่ได้จะอยู่ที่ประมาณ IELTS 5.0*

เคล็ดลับในการทำข้อสอบ Reading

  • ตรวจสอบการสะกดคำเพราะคำตอบที่สะกดผิดจะไม่ได้คะแนน

  • อ่านคำถามอย่างละเอียดเพื่อให้แน่ใจว่าตอบได้ตรงตามที่โจทย์ต้องการ

  • อย่าเขียนเกินจำนวนคำที่กำหนด ในบางคำถามจะมีข้อจำกัดว่าต้องตอบไม่เกินกี่คำ

  • ศึกษาข้อผิดพลาดที่พบบ่อย ลองดู 5 ข้อผิดพลาดที่ควรหลีกเลี่ยงในการสอบ Reading เพื่อเพิ่มโอกาสได้คะแนนสูงขึ้น

*ตัวเลขที่ระบุข้างต้นเป็นค่าเฉลี่ยของจำนวนคำตอบที่ถูกต้องที่มักใช้ในการคำนวณคะแนน IELTS General Training Reading

ทำอย่างไรให้ได้ IELTS Speaking 4.5

การสอบ Speaking ใน IELTS เป็นเหมือนการสนทนาในชีวิตประจำวัน คุณจะพูดคุยกับผู้สอบที่ได้รับการรับรองในห้องที่เงียบและเป็นส่วนตัว แม้ว่าการพูดกับคนแปลกหน้าอาจเป็นเรื่องท้าทาย แต่คุณสามารถใช้โอกาสนี้ให้เป็นประโยชน์ได้! ในการสอบ IELTS ผู้สอบสามารถพูดช้าลงหรือเร็วขึ้นตามที่คุณต้องการ และหากคุณไม่เข้าใจคำถาม คุณสามารถขอให้ผู้สอบพูดซ้ำหรืออธิบายใหม่ได้ ผู้สอบมีหน้าที่ช่วยให้คุณแสดงศักยภาพของตัวเองออกมาให้ดีที่สุด

ทักษะการพูดของคุณจะได้รับการประเมินตามเกณฑ์ต่างๆ ได้แก่ ความคล่องแคล่วและความต่อเนื่องของคำพูด (Fluency and Coherence), การใช้คำศัพท์ (Lexical Resource), การออกเสียง (Pronunciation), และความหลากหลายและความถูกต้องของไวยากรณ์ (Grammatical Range and Accuracy) หากต้องการเข้าใจรายละเอียดเกี่ยวกับแต่ละเกณฑ์และระดับคะแนนที่เป็นไปได้ คุณสามารถดู Speaking band descriptors ซึ่งให้ข้อมูลเกี่ยวกับมาตรฐานการให้คะแนนของ IELTS

คำอธิบายคะแนน IELTS Speaking 4.0

ทักษะ

ความหมาย

Fluency (ความคล่องแคล่ว)

พูดโต้ตอบได้ แต่มีช่วงหยุดชัดเจนและอาจพูดช้า มักพูดซ้ำและแก้ไขตัวเองบ่อย สามารถเชื่อมโยงประโยคพื้นฐานได้ แต่ใช้คำเชื่อมแบบเดิมซ้ำๆ และบางครั้งการสื่อสารอาจขาดความต่อเนื่อง

Lexical Resource (การใช้คำศัพท์)

สามารถพูดเกี่ยวกับหัวข้อที่คุ้นเคยได้ แต่เมื่อต้องพูดถึงหัวข้อที่ไม่คุ้นเคย อาจสื่อสารได้เพียงความหมายพื้นฐาน มีข้อผิดพลาดในการเลือกใช้คำบ่อยครั้ง และแทบไม่พยายามใช้คำอธิบายแทนคำศัพท์ที่ไม่รู้

Grammar (ไวยากรณ์)

ใช้โครงสร้างประโยคพื้นฐานได้ และสามารถสร้างประโยคง่ายๆ ได้ถูกต้องบ้าง แต่ไม่ค่อยใช้โครงสร้างที่ซับซ้อน มีข้อผิดพลาดบ่อยครั้ง ซึ่งอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด

Pronunciation (การออกเสียง)

มีข้อจำกัดในการใช้ลักษณะเสียงที่หลากหลาย พยายามควบคุมการออกเสียงแต่ยังมีข้อผิดพลาดบ่อยครั้ง การออกเสียงผิดเกิดขึ้นบ่อยจนทำให้ผู้ฟังเข้าใจได้ยากในบางครั้ง

คำอธิบายคะแนน IELTS Speaking 5.0

ทักษะ

ความหมาย

Fluency (ความคล่องแคล่ว)

สามารถพูดได้ต่อเนื่องเป็นส่วนใหญ่ แต่ยังคงใช้การพูดซ้ำ แก้ไขตัวเอง หรือพูดช้าเพื่อให้ดำเนินการสนทนาต่อไปได้ อาจใช้คำเชื่อมและตัวเชื่อมข้อความบางคำมากเกินไป สามารถพูดเรื่องง่ายๆ ได้อย่างคล่องแคล่ว แต่เมื่อพูดถึงเรื่องที่ซับซ้อนขึ้น อาจมีปัญหาด้านความคล่องแคล่ว

Lexical Resource (การใช้คำศัพท์)

สามารถพูดเกี่ยวกับทั้งหัวข้อที่คุ้นเคยและไม่คุ้นเคยได้ แต่การใช้คำศัพท์ยังมีความยืดหยุ่นจำกัด พยายามใช้คำอธิบายแทนคำที่ไม่รู้ แต่ยังทำได้ไม่ดีเสมอไป

Grammar (ไวยากรณ์)

ใช้โครงสร้างประโยคพื้นฐานได้อย่างค่อนข้างแม่นยำ สามารถใช้โครงสร้างที่ซับซ้อนขึ้นได้บ้าง แต่ยังมีข้อผิดพลาด และบางครั้งอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด

Pronunciation (การออกเสียง)

ควบคุมการออกเสียงได้ระดับหนึ่งแต่ยังมีข้อผิดพลาด อาจมีช่วงที่ทำให้ผู้ฟังเข้าใจผิดหรือต้องใช้ความพยายามในการฟัง แต่โดยรวมยังสามารถสื่อสารได้

ทำอย่างไรให้ได้ IELTS Writing 4.5

การสอบ Writing ของ IELTS จะได้รับการตรวจโดยผู้สอบที่ผ่านการรับรองและได้รับการฝึกอบรมอย่างเข้มข้น เพื่อให้แน่ใจว่ามาตรฐานการให้คะแนนมีความ แม่นยำและยุติธรรม ไม่ว่าคุณจะสอบจากที่ใดในโลก ข้อสอบของคุณจะถูกตรวจโดยผู้สอบอย่างน้อย สองคน และบางกรณีอาจมีการตรวจซ้ำโดยผู้สอบ สามถึงสี่คน เพื่อให้ได้ผลการประเมินที่ถูกต้องที่สุด

ข้อเขียนของคุณจะได้รับการประเมินจากเกณฑ์ต่างๆ ได้แก่ ความตรงประเด็นของคำตอบ (Task Response/Task Achievement), ความต่อเนื่องและการเชื่อมโยงของเนื้อหา (Coherence and Cohesion), การใช้คำศัพท์ (Lexical Resource), และความหลากหลายและความถูกต้องของไวยากรณ์ (Grammatical Range and Accuracy) หากต้องการเข้าใจรายละเอียดเกี่ยวกับแต่ละเกณฑ์และระดับคะแนนที่เป็นไปได้ คุณสามารถดู Writing band descriptors ซึ่งให้ข้อมูลเกี่ยวกับมาตรฐานการให้คะแนนของ IELTS หรือหากต้องการคำอธิบายเพิ่มเติม คุณสามารถเข้าร่วม IELTS Masterclass ฟรี

เกณฑ์สำหรับคะแนน IELTS Writing