คุณเคยพยายามอ่านเนื้อหาชิ้นหนึ่ง แล้วรู้สึกสับสนกับคำและวลีที่ไม่คุ้นเคยหรือไม่? คุณไม่ได้เป็นคนเดียว การทำความเข้าใจข้อความที่ซับซ้อนอาจเป็นเรื่องยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณกำลังสอบอ่าน IELTS อย่างไรก็ตาม ภายในข้อความนั้นมีตัวช่วยที่ทรงพลังซ่อนอยู่ นั่นคือบริบท บริบทเหล่านี้จะเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการช่วยให้คุณคาดเดาความหมายของคำศัพท์จากบริบท และช่วยให้คุณเข้าใจบทความได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
โดยบทความนี้จะพาสำรวจบทบาทสำคัญของบริบทในการถอดรหัสคำและวลีที่ไม่คุ้นเคยสำหรับการสอบอ่าน IELTS สำรวจประเภทต่าง ๆ ของบริบท และหากลยุทธ์เชิงปฏิบัติในการพัฒนาทักษะที่สำคัญนี้ เพื่อให้คุณทำคะแนนได้ดีในการสอบอ่าน IELTS โดยไม่ต้องกลัวการสอบ
การเข้าใจความสำคัญของบริบท
บริบทคือคำใบ้ของข้อมูลภายในข้อความที่ช่วยในการหาความหมายของคำหรือวลีที่ไม่คุ้นเคย เพื่อช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจข้อความได้ดียิ่งขึ้น คุณสามารถขยายคลังคำศัพท์ของคุณได้อย่างมากโดยใช้บริบทอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้การเรียนรู้เป็นกระบวนการที่ต่อเนื่องและส่งเสริมความรู้ของตนเอง
นอกจากการสอบ IELTS แล้ว ความสามารถในการหาความหมายจากบริบทยังสำคัญต่อการมีปฏิสัมพันธ์ในชีวิตประจำวันและการบริโภคข้อมูล มันทำให้คุณสามารถเข้าร่วมในสภาพแวดล้อมทางภาษาที่หลากหลายได้อย่างไม่มีปัญหา เพิ่มคุณค่าให้กับชีวิตส่วนตัวและชีวิตการทำงานของคุณ
การใช้บริบทยังช่วยขยายคำศัพท์ของคุณโดยไม่จำเป็นต้องเปิดพจนานุกรม เทคนิคนี้ไม่เพียงช่วยในการทำความเข้าใจ แต่ยังขยายคลังคำศัพท์ของคุณอย่างค่อยเป็นค่อยไป ทำให้คุณเป็นผู้สื่อสารที่มั่นใจมากขึ้น
ประเภทของบริบท
บริบทสามารถมาในรูปแบบของคำนิยามโดยตรงหรือความหมายที่แฝงอยู่ในข้อความ ช่วยให้คุณเข้าใจได้โดยไม่ต้องใช้ทรัพยากรภายนอก
1. คำพ้องและคำตรงข้าม
ข้อความมักจะวางคำพ้องกันไว้ใกล้ ๆ กัน เพื่อบอกความหมายโดยอ้อม ทำให้ผู้อ่านสามารถหาความหมายได้ผ่านความเข้าใจเชิงสัมพันธ์ หากข้อความบรรยายถึงตัวละครว่า "พูดมาก (Loquacious)" อาจกล่าวเพิ่มเติมว่าเขา "พูดเยอะ (Verbose)" หรือ "ช่างพูด (Talkative)" โดยใช้คำพ้องเพื่อเน้นความโน้มเอียงในการพูดของเขา
ในทางกลับกัน คำตรงข้ามถูกใช้เพื่อบอกความหมายโดยการเปรียบเทียบ และแบ่งประโยคด้วยคำเชื่อมเพื่อเน้นความแตกต่าง "เจนพูดมาก ไม่เหมือนทอม ชายเงียบขรึมพูดน้อย" (Jane was loquacious, unlike Tom, a quiet man of few words.)
2. ตัวอย่างและคำอธิบาย
ผู้เขียนมักใช้ตัวอย่าง คำอธิบาย หรือการเปรียบเทียบเพื่อให้ความหมายชัดเจนขึ้น การเปรียบเทียบ เช่น การเปรียบเทียบสองสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกันโดยใช้คำว่า "เหมือน (Like)" หรือ "ราวกับ(as)" เพื่อเน้นความคล้ายคลึงกัน เช่น "ตลาดเหมือนกับรังผึ้งที่วุ่นวาย" (The marketplace was as busy as beehive) ซึ่งเปรียบเทียบตลาดที่คึกคักกับกิจกรรมในรังผึ้ง แสดงถึงความแออัดและความยุ่งวุ่นวายผ่านการเปรียบเทียบ
การใช้คำอุปมาอุปไมยก็สามารถใช้ในการเปรียบเทียบสองสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกันได้ โดยให้ความหมายว่าสิ่งหนึ่งคืออีกสิ่งหนึ่งเพื่อเน้นความคล้ายคลึงกันโดยไม่ใช้คำว่า "เหมือน"(Like) หรือ "ราวกับ"(As) เช่น การกล่าวว่า "ห้องเรียนเป็นเตาเผา" (The classroom was a furnance) จะหมายถึงห้องนั้นร้อนมากโดยไม่ต้องใช้คำว่า "เหมือน" หรือ "ราวกับ"
ตัวอย่างเหล่านี้เน้นที่การอ้างอิง ดังนั้นการเข้าใจการเปรียบเทียบที่ใช้จะทำให้คุณเข้าใจหัวข้อได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
3. โครงสร้างของคำ
คำอุปสรรค(Prefix), ปัจจัยเสริม(Suffix), และรากศัพท์สามารถบอกคุณได้มากกว่าที่คุณรู้ การเข้าใจส่วนประกอบเหล่านี้ของคำจะทำให้สามารถเข้าใจความหมายได้โดยตรง
ตัวอย่างของคำอุปสรรค
Un- (ไม่): ไม่เป็นมิตร, มองไม่เห็น, ไม่ธรรมดา
Re- (อีกครั้ง): สร้างใหม่, พิจารณาอีกครั้ง, เยี่ยมชมอีกครั้ง
Pre- (ก่อน): ก่อนประวัติศาสตร์, ทำนาย, ป้องกัน
ตัวอย่างของปัจจัยเสริม
-less (ไม่มี): หมดหวัง, ประมาท, ไม่มีที่สิ้นสุด
-ful (เต็มไปด้วย): ร่าเริง, สงบสุข, ระมัดระวัง
-ity (คุณสมบัติของ): กิจกรรม, ความถ่อมตัว, ความถูกต้อง
การเข้าใจคำอุปสรรค(Prefix) และปัจจัยเสริม(Suffix) ที่พบบ่อยเหล่านี้สามารถให้เบาะแสเกี่ยวกับความหมายของคำใหม่ ๆ ช่วยเพิ่มคำศัพท์และทักษะการเข้าใจ ทำให้คะแนนการสอบอ่าน IELTS ของคุณดีขึ้น
การพัฒนาทักษะการใช้บริบท
การเพิ่มความสามารถในการระบุบริบทเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยพัฒนาความเข้าใจในการอ่าน โดยเฉพาะสำหรับการสอบอ่าน IELTS ผู้สอบสามารถพัฒนาทักษะนี้โดยการฝึกกลยุทธ์การอ่านอย่างตั้งใจ เช่น การขีดเส้นใต้หรือเน้นคำและวลีที่ให้คำใบ้เกี่ยวกับคำนิยามหรือคำอธิบาย สามารถเพิ่มความสามารถในการเข้าใจความหมายของข้อความที่คุณอ่านได้อย่างมาก
การระบุคำสัญญาณ: การเข้าใจคำเช่น "หมายถึง,"(means) "อ้างอิงถึง,"(refers to) หรือ "คล้ายกับ" (similar to) สามารถชี้ให้เห็นบริบท และช่วยให้คุณเข้าถึงความหมายที่แฝงอยู่
การฝึกทำแบบฝึกหัด: การได้ทำแบบฝึกหัดที่หลากหลายสามารถฝึกความสามารถในการระบุและใช้บริบทได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การขยายคำศัพท์: การเก็บบันทึกคำศัพท์เป็นการเรียนรู้แบบกระตือรือร้น ช่วยเพิ่มความเข้าใจในการอ่านได้อย่างค่อยเป็นค่อยไป
หลุมพรางที่ควรหลีกเลี่ยง
ในการฝึกใช้บริบท การมีพฤติกรรมบางอย่างอาจทำให้คุณตีความข้อความผิดได้ ควรอ่านอย่างช้าๆ และตั้งใจ ห้ามรีบร้อน การอ่านช้าๆ ช่วยให้คุณเข้าใจเนื้อหาได้ลึกซึ้งมากขึ้น ไม่พลาดบริบทสำคัญที่ช่วยในการเข้าใจไอเดียที่ซับซ้อนและคำศัพท์ใหม่ๆ
การพึ่งพาพจนานุกรมมากเกินไป: ถึงแม้ว่าพจนานุกรมจะมีประโยชน์ การหยุดอ่านทุกครั้งเมื่อเจอคำใหม่ๆ อาจทำให้ความลื่นไหลของการอ่านลดลง และในความเป็นจริง คุณไม่สามารถนำพจนานุกรมเข้าห้องสอบ IELTS ได้ ดังนั้นลองฝึกใช้บริบทในการทำความเข้าใจคำใหม่ และใช้พจนานุกรมเป็นแหล่งข้อมูลเสริมในการทบทวน
การมองข้ามบริบท: บทความในข้อสอบนั้นถูกเขียนขึ้นอย่างมีตั้งใจ ทำให้การมองข้ามบริบทอาจทำให้คุณพลาดการเข้าใจที่สำคัญ
การตีความผิด: การตีความบริบทผิดอาจทำให้เกิดความสับสน เมื่อมีข้อสงสัย ควรกลับไปอ่านข้อความใหม่เพื่อทำความเข้าใจความหมายที่แท้จริง
การใช้เวลามากเกินไป: หลีกเลี่ยงการใช้เวลามากเกินไปในการหาความหมายของทุกคำที่ไม่คุ้นเคย มิฉะนั้นเวลาสอบอ่าน IELTS จะหมดลงก่อนที่คุณจะทำข้อสอบเสร็จ การใช้บริบทเพื่อหาคำสำคัญจะช่วยในการตอบคำถามได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญจาก IDP
IDP Education เป็นที่ปรึกษาที่คุณไว้วางใจได้ในการเตรียมตัวสอบอ่าน IELTS มีหลักสูตรออนไลน์และหลักสูตรพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อพัฒนาทักษะการใช้บริบทของคุณ ในฐานะเจ้าของร่วมของการสอบ IELTS เรามีทรัพยากรเตรียมสอบ IELTS อย่างเป็นทางการ ที่ให้คุณเข้าถึงแบบฝึกหัดเชิงโต้ตอบ ควิซ และแบบทดสอบ เพื่อเตรียมตัวให้มั่นใจในการใช้บริบท
การเข้าใจข้อความด้วยบริบทและเชี่ยวชาญในการใช้บริบทนั้น นอกจากจะทำให้คุณได้คะแนนการสอบอ่าน IELTS เท่านั้น แต่เป็นการเพิ่มพูนทักษะทางภาษาสำหรับทุกด้านของชีวิต ด้วยกลยุทธ์และทรัพยากรที่กล่าวถึง คุณจะก้าวไปสู่การเพิ่มพูนความสามารถและความมั่นใจในภาษาอังกฤษของคุณอย่างมั่นคง จำไว้ว่า กุญแจสู่ความสำเร็จคือการฝึกฝนอย่างต่อเนื่องและการสังเกตบริบทอย่างละเอียด
ดาวน์โหลดแอป IELTS by IDP เพื่อเริ่มต้นการเดินทางในการเชี่ยวชาญภาษาอังกฤษของคุณ ที่จะเป็นการวิ่งมาราธอน ไม่ใช่การวิ่งเร็ว และทุกก้าวที่คุณก้าวไปจะเป็นก้าวที่ใกล้เป้าหมายมากขึ้นแน่นอน
