ทลาย Intermediate plateau: เส้นทางสู่ความเชี่ยวชาญภาษาอังกฤษ
เคยเป็นกันไหม? เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อยู่ตลอดแต่แล้วก็รู้สึกว่าตัวเองยังเหมือนติดอยู่ที่เดิมไม่มีความก้าวหน้า โดยภาวะนี้เกิดขึ้นได้เช่นกันในผู้เรียนภาษาอังกฤษเรียกกันว่า "intermediate plateau" หรือภาษาไทยแปลว่า "ที่ราบสูงระดับกลาง"
ลองนึกภาพว่าคุณกำลังปีนเขา และเมื่อปีนถึงข้างบนจะเห็นว่าเขามีลักษณะราบเรียบเรื่อย ๆ จนถึงยอดเขา โดยลักษณะที่ราบเรียบนั้นเรียกว่า “intermediate plateau” และสิ่งนี้เกิดขึ้นกับผู้เรียนที่อยู่ในขั้นการเรียนรู้ที่มีความก้าวหน้าอยู่บนเขาภาษาที่สูงราบเรียบแต่ก็ยังไปไม่ถึงยอดเขา
ถึงจะเป็นประสบการณ์ที่น่าหงุดหงิด แต่เชื่อว่าทุกคนก็เคยไปยืนจุดๆ นั้นมาแล้ว
ทำไมมันถึงมีภาวะแบบเกิดขึ้น แล้วจะก้าวข้ามเพื่อพิชิต IELTS ได้ยังไง?
ที่จริงแล้ว Intermediate plateau คืออะไร?
ในเส้นทางการเรียนรู้นั้นคุณอาจก้าวไปได้ไกลกว่าจุดพื้นฐานแล้ว ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่ได้เชี่ยวชาญ หรืออาจจะเข้าใจทุกอย่างที่คู่สนทนาพูดเป็นภาษาอังกฤษแต่ก็ยังเป็นปัญหาขึ้นเมื่อต้องต่อบทสนทนา
เราไปอ่านกันต่อเพื่อให้เข้าใจว่าสิ่งไหนคือสัญญาณของการเข้าสู่ intermediate plateau
Intermediate หมายถึงอะไร?
สิ่งที่ยุ่งยากอย่างหนึ่งเกี่ยวกับ Intermediate plateau คือ มันไม่ง่ายเลยที่จะให้คำจำกัดความว่าจริงๆ แล้ว "intermediate" หมายถึงอะไร เพราะคำว่า "intermediate" แต่ละคนอาจนิยามแตกต่างกันไป
ถึงอย่างนั้นก็พอมีคำจำกัดความอยู่บ้าง เช่น ตามระดับของ The Common European Framework of Reference for Languages (CEFR) ใช้เพื่ออธิบายบุคคลที่ใช้ภาษาอังกฤษได้ในระดับกลางได้แก่ B1 Intermediate และ B2 Upper Intermediate
CEFR อธิบายคำจำกัดความของผู้เรียนระดับกลาง (Intermediate) ไว้ดังนี้ :
สามารถเข้าใจใจความสำคัญของข้อความที่ซับซ้อนได้ แม้จะเป็นหัวข้อเฉพาะทาง
สามารถสนทนากับเจ้าของภาษาได้อย่างไม่ติดขัด
สามารถเขียนเรียงความอย่างละเอียดเกี่ยวกับหัวข้อต่าง ๆ ได้
การก้าวไปสู่จุด “plateau” หรือ “ที่ราบสูง” หมายความว่าอย่างไร?
Cambridge Dictionary อธิบายความหมายของ Plateau ว่าที่จริงแล้วคือสถานะของการไปถึงระดับใดระดับหนึ่งแล้วคงอยู่ที่ระดับนั้น
จากการอธิบายนั้นอาจเดาได้ว่าการอยู่ในจุด intermediate plateau ระหว่างการเรียนรู้ภาษานั้นหมายถึงสถานะความก้าวหน้าของการเรียนรู้ ซึ่งมีการเรียนรู้อย่างมั่นคงแต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่น่าชื่นชม
ไขปริศนา intermediate plateau: เกิดขึ้นได้อย่างไร?
สภาวะการเรียนรู้แบบนี้เรียกว่า "intermediate plateau" หรือ "ที่ราบสูงระดับกลาง" คำถามคือ การเรียนรู้แบบนี้ให้ความรู้สึกว่ามั่นคงแล้ว แล้วทำไมมันถึงยังเกิดสภาวะนี้ขึ้นและเกิดขึ้นตั้งแต่ก้าวขึ้นสู่ระดับ Intermediate
1. The law of diminishing returns หรือ กฎผลตอบแทนลดน้อยถอยลง
ลองนึกภาพคุณเป็นมือใหม่ในการเรียนรู้ภาษาใหม่ และกำลังเริ่มต้นเรียนคำและวลีพื้นฐานทั่วไปที่ใช้ในการสนทนาในชีวิตประจำวัน เช่น “Hello” และ“How are you?”
ในช่วงแรกๆ รู้สึกว่าการเรียนมีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว สมมติว่าในหนึ่งวันท่องคำศัพท์ใหม่ได้ห้าคำ คุณจะรู้สึกว่าความสามารถทางภาษาของคุณก้าวกระโดด แต่เมื่อผ่านจุดนั้นมาและก้าวสู่ระดับ Intermediate การจำคำศัพท์จะกลายเป็นเรื่องปกติ และจะเริ่มมีการท่องคำศัพท์ขั้นสูง เช่น "zeitgeist" และคำศัพท์พิเศษอื่นๆ
แม้ว่าคำเหล่านี้จะน่าสนใจและมีประโยชน์ แต่ก็ไม่ได้มีส่วนสำคัญต่อการสนทนาในชีวิตประจำวัน ดังนั้นเมื่อพิจารณาการลงทุนในการเรียนรู้คำศัพท์ที่ไม่ได้มีประโยชน์ในแง่ของการใช้งานจริง ผลก็คือ ความก้าวหน้าของความสามารถในการใช้ภาษาอาจดูไม่มากนัก
2. The illusion of a shrinking universe หรือ ภาพลวงตาของจักรวาลที่กำลังหดตัว
อีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เกิด intermediate plateau เชื่อมโยงกับความคิดที่ว่า ยิ่งคุณเรียนรู้มากเท่าไร คุณก็ยิ่งรู้น้อยลงเท่านั้น
ความก้าวหน้านั้นมาพร้อมกับการตระหนักรู้ที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับความกว้างใหญ่และความซับซ้อนของภาษา ซึ่งความตระหนักที่เพิ่มขึ้นนี้สามารถครอบงำและสร้างภาพลวงตาว่าความก้าวหน้าหยุดนิ่งแล้ว
ป.ล. การเรียนรู้ภาษาอาจมีความคล้ายกับ "illusion of a shrinking universe" ในทางที่มีการมองว่ามันยากและซับซ้อนกว่าที่จริง บางครั้งเราอาจรู้สึกว่าเรียนรู้ภาษานั้นเหมือนกับการพยายามทำให้จำเป็นต้องเรียนรู้คำศัพท์มากมาย ไวยากรณ์ซับซ้อน และกฎการใช้ภาษาต่าง ๆ ซึ่งทำให้มีความกว้างขวางและซับซ้อนเหล่านี้ทำให้เรามองว่ามันเป็นภาระหนักและใหญ่โตเหลือเกิน แต่ในทางกลับกัน จริง ๆ แล้ว เมื่อเราเริ่มเข้าใจและทำความเข้าใจกับหลักการพื้นฐานและลำดับขั้นตอน การเรียนรู้ภาษาก็เหมือนการสร้างภูมิปัญญาในเรื่องใหม่ ๆ ที่น่าสนใจและเปิดโอกาสให้เราเข้าใจโลกและสื่อสารกับผู้คนในวัฒนธรรมอื่น ๆ ได้มากขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องมีการศึกษาที่ซับซ้อนและยากลำบากมากมายเหมือนที่เราเคยคิดไว้ล่วงหน้า
ระบุตำแหน่ง intermediate plateau: คุณไปถึงที่นั่นหรือยัง?
ก่อนที่จะพยายามก้าวข้ามภาษาอังกฤษระดับ intermediate สิ่งสำคัญคือต้องรู้ว่าคุณเคยเผชิญกับ intermediate plateau จริง ๆ หรือยัง บางครั้งอาจรู้สึกเหมือนว่าคุณเจออุปสรรคในการเรียนภาษา แต่อาจเป็นเพียงอุปสรรคชั่วคราวไม่ใช่อุปสรรคที่ยืดเยื้อ
ลองพิจารณาคุณลักษณะต่อไปนี้ แยกแยะความแตกต่างระหว่าง intermediate plateau และความท้าทายในชีวิตประจำวันในการเรียนรู้ภาษา:
1. ช่องว่างระหว่างความเข้าใจและการแสดงออก
สัญญาณอย่างหนึ่งของ intermediate plateau คือช่องว่างที่เห็นได้ชัดเจนระหว่างการเข้าใจภาษา (ความสามารถในการรับรู้) และการแสดงออกอย่างมีประสิทธิผล (ความสามารถในการผลิต)
พูดง่ายๆ ก็คือคุณอาจพบว่าตัวเองอยู่ในสถานการณ์ที่คุณสามารถเข้าใจสิ่งที่คนอื่นพูดหรือเข้าใจข้อความที่ซับซ้อนได้อย่างง่ายดาย แต่ก็ประสบปัญหาเมื่อถึงคราวที่คุณต้องพูดหรือเขียนด้วยความสามารถในระดับเดียวกัน
ชี้จุดช่องว่างและอุดโดยทำตามขั้นตอนในการแก้ไขปัญหา เพราะช่องว่านี้ถือเป็นปัญหาสำคัญกับการทดสอบความสามารถทางภาษาอังกฤษอย่างการสอบ IELTS ซึ่งการสนทนาที่ไหลลื่นและเป็นธรรมชาติสำคัญอย่างยิ่งต่อการสอบพาร์ท Speaking
2. ความคงอยู่ของข้อผิดพลาดทางภาษา
เคยได้ยินคำพูดที่ว่า “old habits die hard” (“นิสัยเก่า ๆ แก้ยาก”) ไหม?
ลักษณะทั่วไปอีกประการหนึ่งของ intermediate plateau คือการมีอยู่ของสิ่งที่นักภาษาศาสตร์อย่างแจ็ค ซี. ริชาร์ดเรียกว่า "fossilised errors." หรือ "การพลาดในสิ่งเดิม ๆ" เหล่านี้เป็นข้อผิดพลาดทั่วไปของ beginners แม้ว่าจะทุ่มเทและฝึกฝนมานับไม่ถ้วนก็ตาม คุณอาจฝึกอย่างหนักเพื่อพัฒนาภาษาอังกฤษ แต่ข้อผิดพลาดที่ทำเมื่อยังเป็น beginners ก็ไม่ยังไม่พัฒนา ข้อผิดพลาดเหล่านี้อาจคงอยู่ชั่วระยะหนึ่ง แต่จะปรากฏขึ้นอีกครั้งชั่วคราวและจะเกิดขึ้นอีกอย่างไม่ได้ตั้งใจ และจะเกิดขึ้นในสถานการณ์หรือบริบทที่เฉพาะเจาะจง
3. ความคล่องแคล่ว VS. ความซับซ้อน
Intermediate plateau มักทำให้ผู้เรียนต้องแลกระหว่างความคล่องแคล่วกับความซับซ้อน โดยในขั้นตอนนี้ คุณอาจพบว่าคุณสามารถสื่อสารความคิดและแนวคิดต่างๆ ได้ดีพอสมควร แต่ก็มีข้อเสียคือ คุณมักจะพึ่งพาไวยากรณ์ คำศัพท์ และกลยุทธ์การสื่อสารแบบเรียบง่ายกว่าซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของผู้เรียนเริ่มต้น
แม้ว่าทักษะทางภาษาของคุณจะทำให้คุณสามารถถ่ายทอดความหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่คุณอาจยังไม่เข้าใจรูปแบบภาษาที่ซับซ้อนและลักษณะการใช้งานของผู้ใช้ภาษาอังกฤษขั้นสูงได้ครบถ้วน
การแลกนี้อาจเหมือนกับการเดินไต่เชือก อีกแง่หนึ่งคุณกระตือรือร้นที่จะแสดงความรู้สึกของตัวเองอย่างคล่องแคล่วและมั่นใจว่าคุณเข้าใจผู้อื่น ในทางกลับกัน คุณตระหนักดีว่าการบรรลุระดับความซับซ้อนที่สูงขึ้นในการใช้ภาษานั้นเป็นก้าวต่อไปในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ถือเป็นความสมดุลอันละเอียดอ่อนที่ผู้เรียนภาษาจำนวนมากต้องเผชิญระหว่างการเดินทางสู่ความเชี่ยวชาญขั้นสูง
4. คลังคำศัพท์ที่มีอย่างจำกัด
ลักษณะเฉพาะอีกข้อหนึ่งของ Intermediate plataeu คือข้อจำกัดของคลังคำศัพท์ ในขณะที่คุณก้าวหน้าไปอย่างมากในการเรียนภาษาอังกฤษ แต่การพัฒนาคำศัพท์ของคุณอาจไม่ก้าวหน้าไปไกลเท่าที่คุณต้องการ โดยในขั้นตอนนี้ ผู้เรียนมักจะพบว่าตัวเองใช้คำศัพท์ง่ายๆ มากเกินไป และกำลังดิ้นรนเพื่อให้ได้คำศัพท์ขั้นสูงและการใช้งานที่เหมาะสม
พูดง่าย ๆ ก็คือ แม้ว่าคุณจะสามารถสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพในสถานการณ์ในชีวิตประจำวัน แต่เมื่อเป็นเรื่องของการแสดงความคิดเห็นที่ซับซ้อนหรือเจาะลึกในสาขาเฉพาะทาง คำศัพท์ของคุณอาจไม่เพียงพอ ข้อจำกัดนี้สามารถเห็นได้ชัดเป็นพิเศษในระหว่าง Sepeaking test ของ IELTS เช่น เมื่อ Examiner ขอให้อภิปรายหัวข้อที่ซับซ้อน แต่คำศัพท์ของคุณอาจไม่เพียงพอ ทำให้เป็นเรื่องยากในการแสดงแนวคิดที่ละเอียดถี่ถ้วนอย่างมีประสิทธิภาพ
5. ความคล่องแคล่ว VS การแสดงออกที่เป็นธรรมชาติ
ลองนึกภาพการสนทนาโดยที่ประโยคของคุณมีโครงสร้างและไวยากรณ์อย่างไร้ข้อผิดพลาด แต่มีบางอย่างที่รู้สึกผิดไปเล็กน้อยราวกับว่าคุณกำลังสนทนาเหมือนถอดมาจากหนังสือเรียนแทนที่จะมีส่วนร่วมในบทสนทนาอย่างเป็นธรรมชาติที่ใช้ในชีวิตประจำวัน
เมื่อคุณถึง plateau แล้ว มักจะพบว่าตนเองอยู่ในสถานการณ์ที่ใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วและใช้หลักไวยากรณ์ในการพูด แต่อาจฟังดูเป็นทางการมากเกินไปหรือดูเฉิ่ม
สิ่งนี้เกิดขึ้นจากต้องการที่จะพูดอย่างถูกต้อง ซึ่งเป็นเป้าหมายที่น่าชื่นชม อย่างไรก็ตาม มันอาจนำไปสู่การคิดมากทุกคำและวลี ซึ่งส่งผลให้เกิดน้ำเสียงที่ไม่เป็นธรรมชาติ
แล้วคุณจะเอาชนะภาษาระดับ intermediate ได้อย่างไร?
1. ใจเย็นไว้และเดินหน้าต่อไป
อาจเป็นข้อแนะนำที่ดูเหมือนพูดง่ายกว่าทำ แต่การทำความเข้าใจว่าการก้าวไปสู่ intermediate plateau เป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ภาษาโดยธรรมชาติ ซึ่งถือเป็นก้าวแรกสู่การเปลี่ยนแปลง และในการเดินทางของคุณ คุณจะพบกับช่วงเวลาที่รู้สึกว่าคุณไม่ก้าวหน้าเลย อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่าความก้าวหน้าในการเรียนรู้ภาษานั้นไม่ได้เป็นเส้นตรงหรือมีความสม่ำเสมอเสมอไป ในช่วง plateau เหล่านี้ ความอดทนและความพยายามเป็นคู่หูที่ดีที่จะทำให้คุณพิชิต IELTS ในที่สุด
2. เพิ่มเวลาที่ใช้ในการเรียนรู้
ระยะเวลาที่ต้องใช้ในการเอาชนะ intermediate plateau นั้นแตกต่างกันไปในแต่ละคน อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์หนึ่งที่มีประสิทธิภาพคือการเพิ่มความพยายามในการฝึกภาษาอังกฤษ ไม่ว่าจะเป็นการอ่านหนังสือเฉพาะเรื่อง ฟังพอดแคสต์ออนไลน์ หรือการใช้ประโยชน์จากสื่อการสอน IELTS ชั้นนำที่สามารถช่วยพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของคุณไปอีกระดับ การทุ่มเทเวลามากขึ้นในการอ่าน การพูด และฝึกการฟังภาษาอังกฤษอย่างกระตือรือร้น สามารถเร่งความก้าวหน้าของคุณได้ ยิ่งคุณดำลงลึกมากเท่าไร คุณก็จะก้าวไปไกลกว่าความคล่องขั้นพื้นฐานได้เร็วยิ่งขึ้น ซึ่งท้ายที่สุดแล้วจะเป็นการเพิ่มความมั่นใจและความสำเร็จในการสอบ IELTS ของคุณ
3. ฟังให้มากขึ้นและจับสังเกต
การฟังเป็นวิธีที่ดีที่สุดวิธีหนึ่งในการเรียนภาษาอังกฤษ โดยคุณสามารถใช้พอดแคสต์หรือหนังสือเสียงได้ และแทนที่จะฟังเจ้าของภาษาเฉยๆ คุณลองวิเคราะห์รูปแบบการพูดของพวกเขา ให้ความสนใจกับวิธีที่พวกเขาเปล่งเสียง น้ำเสียง และการเลือกใช้คำในบริบทต่าง ๆ จากนั้น พยายามตั้งใจที่จะเลียนแบบความแตกต่างเหล่านี้แล้วนำมาปรับใช้กับการสนทนาของคุณ มันก็เหมือนกับหารฝึกเต้นที่ใช้การสังเกตและเลียนแบบการเต้นจากมืออาชีพ
4. เมื่อการเรียนรู้เริ่มน่าเบื่อหรือไม่ท้าทาย ก็ถึงเวลาที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลง
เมื่อกระบวนการเรียนรู้กลายเป็นเรื่องซ้ำซากหรือไม่ท้าทาย นั่นเป็นสัญญาณชัดเจนว่าคุณได้ปรับตัวเข้ากับกิจวัตรประจำวันแล้ว เพื่อหลุดพ้นจาก plateau แห่งนี้แล้วหาความท้าทายใหม่ ๆ ทดลองกับแหล่งข้อมูลภาษาต่าง ๆ ปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมการเรียนของคุณ หรือค้นหาพาร์ทเนอร์แลกเปลี่ยนภาษา การเปิดรับการเปลี่ยนแปลงและการต้อนรับความท้าทายสามารถจุดประกายความกระตือรือร้นในการเรียนรู้และขับเคลื่อนคุณให้ก้าวผ่าน Plateau ได้
เพิ่มความสามารถทางภาษาของคุณกับ IDP
คุณพร้อมที่จะยกระดับทักษะภาษาไปอีกระดับและพิชิต Intermediate plateau หรือยัง?
ถ้านับการก้าวข้ามอุปสรรคในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษระดับ intermediate เป็นการเดินทางหนึ่ง IDP ก็เปรียบเสมือนเพื่อนร่วมเดินทางของคุณที่มีความหนักแน่นบนเส้นทางสู่ความเชี่ยวชาญด้านภาษาแห่งนี้ เพราะเรามีแหล่งข้อมูลและคำแนะนำมากมาย รวมถึงสื่อการเตรียมสอบ IELTS ระดับท็อป หลักสูตรเตรียมสอบ IELTS และแบบทดสอบออนไลน์ IELTS ที่สมจริง โดยทั้งหมดนี้มีการออกแบบมาเพื่อผลักดันให้คุณเป็นผู้มีความสามารถทางด้านภาษา เข้าถึงเข้ามูลทั้งหมดได้เพียงดาวน์โหลดแอป IELTS by IDP
ไม่ว่าคุณจะตั้งเป้าหมายเพื่อจะพัฒนาทักษะทางภาษาหรือเพื่อเตรียมตัวสำหรับการทดสอบความสามารถทางภาษา IDP ที่เป็นเจ้าของร่วมแบบทดสอบ IELTS จะเป็นพาร์ทเนอร์เพื่อให้คุณบรรลุความสำเร็จในการทดสอบความสามารถทางภาษาอังกฤษ ไม่รอช้าสามารถเริ่มเตรียมตัวและจองสอบ IELTS กับ IDP ได้แล้ววันนี้!