PTE หรือ IELTS การสอบไหนง่ายกว่ากัน
IELTS vs PTE – การสอบวัดระดับภาษาอังกฤษแบบใดที่เหมาะกับคุณ? แม้ว่าทั้งสองการสอบจะเปิดโอกาสให้นักเรียนได้ศึกษาต่อ ทำงาน หรือย้ายถิ่นฐานไปยังประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก แต่ก็มีความแตกต่างที่โดดเด่นของแต่ละการสอบเช่นกัน
PTE-Academic (PTE-A) เป็นการสอบภาษาอังกฤษแบบออนไลน์ทั้งหมดที่ใช้เวลาสองชั่วโมง โดยประเมินทักษะการพูด การฟัง การอ่าน และการเขียนของผู้สอบ
ในขณะเดียวกัน IELTS ก็ประเมินทักษะการพูด การฟัง การอ่าน และการเขียนเช่นกัน แต่สามารถสอบได้ทั้งในรูปแบบการสอบที่ศูนย์สอบ (แบบกระดาษ) และการสอบออนไลน์ผ่านคอมพิวเตอร์ ซึ่งเปิดตัวเลือกที่หลากหลายให้กับผู้สอบ
เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจข้อแตกต่างระหว่างสองการสอบนี้ได้ดียิ่งขึ้น เราได้สรุปข้อมูลภาพรวมที่ช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกได้ง่ายขึ้น
เลือกสอบ IELTS หรือ PTE: สิ่งที่ควรรู้
1. ความแตกต่างระหว่าง IELTS และ PTE
ความแตกต่างหลักระหว่างการสอบทั้งสองคือ IELTS เปิดโอกาสให้ผู้สอบเลือกสอบในรูปแบบออนไลน์ (Computer-Delivered) หรือรูปแบบกระดาษ (Paper-Based) ในขณะที่ PTE เป็นการสอบออนไลน์ทั้งหมด และข้อสอบจะได้รับการตรวจให้คะแนนโดยระบบคอมพิวเตอร์
นอกจากนี้ ยังมีความแตกต่างอื่น ๆ ที่ควรพิจารณา:
โครงสร้างและรูปแบบการสอบ: การสอบ IELTS ประกอบด้วย 4 ส่วน ได้แก่ การฟัง (Listening), การอ่าน (Reading), การเขียน (Writing), และการพูด (Speaking) ในขณะที่ PTE มีการสอบการอ่าน (Reading) และการฟัง (Listening) เช่นกัน แต่รวมการสอบการพูดและการเขียนเข้าด้วยกันในส่วนเดียว นอกจากนี้ ความยาวของแต่ละส่วน รูปแบบคำถาม และลักษณะงานที่ต้องทำก็แตกต่างกันระหว่างการสอบทั้งสอง
กฎการทำข้อสอบ: เนื่องจาก PTE เป็นการสอบออนไลน์ ผู้สอบต้องตอบคำถามให้เสร็จก่อนถึงจะไปยังคำถามถัดไปได้ ในขณะที่ผู้สอบ IELTS สามารถข้ามคำถามและกลับมาตอบภายหลังได้
การให้คะแนน: IELTS ใช้คะแนนในช่วง 0 ถึง 9 โดยส่วนใหญ่มหาวิทยาลัยมักกำหนดคะแนนขั้นต่ำที่ 6.0 หรือ 6.5 ขึ้นไป ในขณะที่ PTE ใช้คะแนนในช่วง 10 ถึง 90 โดยมหาวิทยาลัยมักต้องการคะแนนขั้นต่ำที่ 55 ถึง 60
2. วิธีการคำนวณคะแนน
การคำนวณคะแนนของทั้งสองการสอบมีความแตกต่างกัน สำหรับ IELTS คะแนนจะถูกคำนวณในระบบ 9-band scale โดย 1 คือคะแนนต่ำสุด และ 9 คือคะแนนสูงสุด ระบบนี้เป็นมาตรฐานที่ใช้มาอย่างยาวนานและเข้าใจได้ง่าย
สำหรับ PTE คะแนนจะถูกคำนวณในระบบคะแนนแบบละเอียดในช่วง 10 ถึง 90 โดยใช้ระบบเฉพาะที่เรียกว่า Global Scale of English ซึ่ง 10 คือคะแนนต่ำสุด และ 90 คือคะแนนสูงสุด
นี่คือการเปรียบเทียบคะแนน ระหว่าง IELTS และ PTE
IELTS | 5 | 5.5 | 6 | 6.5 | 7 | 7.5 | 8 | 8.5 |
PTE | 40.8 | 45.4 | 51.6 | 58.5 | 66.3 | 74.6 | 82.3 | 88.1 |
แม้ว่าทั้งสองระบบการคำนวณคะแนนจะมีความถูกต้องและเชื่อถือได้แม้ใช้เกณฑ์ที่แตกต่างกัน แต่คะแนนสอบของแต่ละการสอบอาจถูกประเมินแตกต่างกันในแต่ละประเทศ
ตัวอย่างเช่น การสมัครเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยบางแห่งต้องการคะแนนขั้นต่ำ 60 สำหรับ PTE ในขณะที่ IELTS ต้องการคะแนนอยู่ที่ 6.5 ถึง 7 ซึ่งสูงกว่าข้อกำหนดขั้นต่ำของ PTE เกือบ 1 ระดับ
ดังนั้น เมื่อเลือกมหาวิทยาลัยที่คุณสนใจ อย่าลืมตรวจสอบข้อกำหนดคะแนนสอบภาษาอังกฤษของแต่ละมหาวิทยาลัยให้ละเอียด คุณอาจพบตัวเลือกที่ง่ายกว่าและช่วยลดความพยายามได้ในที่สุด
3. IELTS Speaking มีผู้ประเมินจริง
การสอบ IELTS Speaking ยังคงดำเนินการโดยผู้ประเมินตัวจริงจนถึงปัจจุบัน ในทางกลับกัน การสอบ Speaking ของ PTE ไม่มีผู้ประเมินจริงเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ใช้ระบบคอมพิวเตอร์อัตโนมัติในการให้คะแนนแทน
การประเมินใน PTE จะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ความเร็ว คุณภาพเสียง น้ำเสียง และการออกเสียง รวมถึงปัจจัยอื่น ๆ ระบบของ Pearson จะใช้เทคโนโลยีในการประมวลผลเสียงที่บันทึกไว้และให้คะแนนผู้สอบตามเกณฑ์ดังกล่าว
เนื่องจากการให้คะแนนของ PTE เป็นระบบคอมพิวเตอร์อัตโนมัติ จึงยังมีบางคนที่ชอบการประเมินจากผู้ประเมินตัวจริงมากกว่า หากคุณรู้สึกไม่สบายใจกับการที่คอมพิวเตอร์เป็นผู้ให้คะแนน การสอบ IELTS อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า
ในท้ายที่สุด ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความสะดวกสบายส่วนตัวของคุณ อย่าลืมเลือกสิ่งที่เหมาะสมที่สุดสำหรับตัวคุณ
4. IELTS เสนอรูปแบบการสอบแบบกระดาษและปากกา
หากคุณชอบการสอบแบบปากกาและกระดาษในรูปแบบเดิม การสอบ IELTS เป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์คุณได้ดีที่สุด อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่ถนัดการสอบผ่านคอมพิวเตอร์ ทั้ง IELTS และ PTE ก็มีตัวเลือกนี้เช่นกัน
ทั้งสองรูปแบบมีข้อดีในตัวเอง ตัวอย่างเช่น การสอบแบบกระดาษและปากกาของ IELTS ช่วยให้ควบคุมการสอบได้ง่ายกว่า โดยคุณสามารถข้ามไปยังคำถามอื่นได้อย่างสะดวก และตอบคำถามตามลำดับที่ต้องการภายในเวลาที่กำหนด
ในขณะที่การสอบแบบออนไลน์ของ IELTS และ PTE เหมาะสำหรับผู้ที่คุ้นเคยกับการอ่านและตอบคำถามผ่านหน้าจอ และยังมีฟีเจอร์สำหรับการเข้าถึง เช่น การปรับขนาดตัวอักษร เพื่อรองรับผู้ที่มีความต้องการพิเศษ
อย่าลืมเลือกวิธีการสอบที่เหมาะกับคุณที่สุด เพื่อให้คุณทำข้อสอบได้อย่างมั่นใจและมีประสิทธิภาพสูงสุด!
5. IELTS ได้รับการยอมรับในระดับโลกมากกว่า
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าในการสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ IELTS ถือเป็นตัวเลือกที่ได้รับการยอมรับในระดับโลกมากที่สุด และมีเหตุผลที่ดีรองรับ
IELTS มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 30 ปี และเป็นผู้บุกเบิกระบบการสอบวัดทักษะภาษาอังกฤษทั้ง 4 ด้าน ซึ่งกลายเป็นพื้นฐานสำหรับรูปแบบการสอบภาษาอื่น ๆ ในปัจจุบัน
IELTS ได้รับการยอมรับจากองค์กรและมหาวิทยาลัยกว่า 11,500 แห่ง ใน 140 ประเทศทั่วโลก ซึ่งช่วยเปิดโอกาสให้ผู้สอบมีตัวเลือกที่หลากหลายยิ่งขึ้นเมื่อสมัครเรียนหรือสมัครงาน
ในทางกลับกัน PTE เป็นผู้เข้าสู่ตลาดใหม่ โดยเปิดตัวครั้งแรกในปี 2009 แม้จะยังค่อนข้างใหม่ แต่ก็ได้รับการยอมรับจากสถาบันกว่า 3,000 แห่ง ในประเทศต่าง ๆ เช่น สหรัฐอเมริกา นิวซีแลนด์ ไอร์แลนด์ และฝรั่งเศส
เตรียมตัวสอบ IELTS ให้ดียิ่งขึ้นด้วยเนื้อหาเตรียมสอบของเรา
การสอบ IELTS อาจดูยากและท้าทาย แต่ด้วยทรัพยากรของเรา คุณสามารถเพิ่มโอกาสในการได้คะแนนตามเป้าหมายเพื่อเข้าคอร์สในฝันของคุณได้อย่างง่ายดาย!
นี่คือเนื้อหาเตรียมสอบที่เรามีให้คุณ:
อย่าลืมฝึกฝนและเตรียมตัวให้พร้อมก่อนเข้าสอบ IELTS เพื่อความสำเร็จของคุณ!
เริ่มต้นเส้นทาง IELTS ของคุณกับ IDP
สรุปแล้ว ไม่มีการสอบใดที่ "ง่ายกว่า" อย่างแท้จริงระหว่าง IELTS และ PTE ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความต้องการส่วนตัว ความสะดวกสบาย และใบรับรองที่มหาวิทยาลัยที่คุณต้องการสมัครยอมรับ
สำหรับผู้ที่ตัดสินใจสอบ IELTS เราพร้อมดูแลคุณ! นอกจากการเป็นเจ้าของร่วมอย่างเป็นทางการของ IELTS แล้ว IDP ยังมีศูนย์สอบที่สะดวกสบายและเนื้อหาเตรียมสอบฟรีเพื่อสนับสนุนคุณอีกด้วย
เรียนรู้เหตุผลที่คุณควรสอบ IELTS กับเรา และจองสอบ IELTS ของคุณวันนี้เพื่อเริ่มต้นเส้นทางสู่ความสำเร็จ!